Saturday, September 15, 2012

เปรียบเทียบศิลปะการแต่งกายที่เหมาะสมของบุคคลต่อไปนี้ คนอ้วนและคนผอม

 เปรียบเทียบศิลปะการแต่งกายที่เหมาะสมของบุคคลต่อไปนี้     คนอ้วนและคนผอม
 
 
 คนอ้วน คน ที่มีหุ่นอวบอ้วนควรเลือกใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีกรมท่า ฯลฯ หากเสื้อผ้าตัวนั้นมีลายทาง ไม่ควรเลือกเป็นลายทางตามขวางมาใส่ (ลายทางในแนวนอน) เพราะจะเป็นการเน้นความกว้างซึ่งก็คือความอ้วนให้เด่นชัดเข้าไปอีก ควรเลือกลายทางตามยาว (ลายทางในแนวดิ่ง)ซึ่งจะเน้นความยาวของลำตัว ทำให้ดูหุ่นเพรียวขึ้นได้ อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ เสื้อผ้ารัดติ้ว (จะทำให้เนื้อปริ้นออกมามองแล้วคล้ายแหนม) และเสื้อผ้าหลวมโคร่ง (จะทำให้ดูตัวใหญ่เหมือนยักษ์) ดังนั้นควรใส่เสื้อผ้าพอดีตัวเข้ารูปจะดีกว่า

คน อ้วนที่ต้องการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูผอมเพรียวและสูงขึ้นควรเลือกใส่ กางเกงขายาวแบบขาตรง สวมเสื้อคอวี สีของเครื่องแต่งกายทั้งเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ให้เป็นไปในโทนสีเดียวกัน จะช่วยให้หุ่นเพรียวสูงขึ้นไ้ด้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงกางเกงเอวสูง แม้ว่าจะช่วยทำให้ดูช่วงขายาวได้ก็จริง แต่สำหรับคนอ้วนถือเป็นข้อห้าม เพราะจะเป็นการเน้นเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าท้องให้เด่นชัดขึ้น สำหรับปัญหาสะโพกใหญ่ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการสะสมไขมันส่วนเกินเอาไว้ก็มีวิธีแก้ไขโดยเลือกใส่ กางเกงเอวต่ำ (ไม่ควรต่ำเกินไปจนดูโป๊) สีเข้ม ช่วยอำพรางสะโพกได้ แต่มีข้อห้ามอยู่ว่าต้องไม่ฟิตจัดหรือมีกระเป่าใบใหญ่ๆตรงบั้นท้าย เพราะจะเป็นการเน้นสะโพกให้ดูใหญ่ขึ้นไปอีก
คนผอม คนผอมมีหลายแบบ ทั้งผอมเพรียวสมส่วน ผอมเตี้ย ผอมแต่ช่วงตัวยาว ผอมแต่ช่วงตัวสั้น ผอมแบบไร้สะโพก ฯลฯ แต่ละแบบก็เป็นปัญหาในการเลือกเสื้อผ้าไม่ต่างกับคนที่มีหุ่นอวบอ้วนเลย แต่ถ้ารู้จักเทคนิคในการเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับหุ่นของตัวเองดังที่ผู้ เขียนกำลังจะนำเสนอในวันนี้ ก็สามารถแต่งตัวให้ดูดีได้เหมือนกัน

1.คนตัวเตี้ย
กางเกง ที่เหมาะกับคนตัวเตี้ยคือกางเกงเอวสูง ขาตรง จะเป็นขายาวหรือขาสั้นก็ได้ตามใจชอบ (แต่ถ้าเป็นขายาวจะช่วยให้ช่วงขาที่สั้นดูยาวเรียวขึ้นได้มากกว่าขาสั้น) กางเกงเอวสูง ขาตรง จะช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้น เน้นแบบเรียบๆ สีซีด ไม่มีลาย จะดีกว่า

2.คนที่มีช่วงตัวสั้น
คนที่มีชาวงตัวสั้นกว่า ขาจนเห็นได้ชัดเหมาะกับกางเกงเอวต่ำ พอดีตัว ไม่ต่ำหรือฟิตเกินไปจนดูโป๊ ช่วยทำให้ช่วงตัวดูยาวขึ้นได้ ที่สำคัญกางเกงเอวต่ำยังช่วยอำพรางเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย

3.คนที่มีช่วงตัวยาว
คนที่มีช่วงตัวยาวจนเห็นได้ชัด เหมาะกับกางเกงเอวสูง ขาตรง นอกจากจะได้โชว์หุ่นผอมเพรียวแล้ว ยังช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้นได้

4.หุ่นผอมไร้สะโพก
คน ที่ไม่มีสะโพกมักจะดูไหล่กว้าง จัดว่าเป็นหุ่นแบบแอ๊ปเปิ้ล ข้อดีของคนที่มีหุ่นแบบนี้คือจะมีต้นขาที่เรียวเล็กสวยงาม ดังนั้นถ้าสวมกระโปรงสั้น (ไม่ใช่สั้นจุ๊ดจู๋นะ) เหนือเข่าเล็กน้อย แบบจีบรอบตัวคล้ายกระโปรงพลีท จะทำให้ดูมีสะดพกมากขึ้น ถ้าต้องการใส่กางเกง ต้องหลีกเลี่ยงกางเกงเอวต่ำกว่าสะดือ เพราะจะทำให้เห็นได้ชัดว่าไม่มีสะโพก และกางเกงเอวสูงก็ห้ามเพราะถูกออกแบบมาเพื่อเน้นสัดส่วนช่วงขา หากคนไม่มีสะโพกใส่กางเกงเอวสูงก็คงไม่เหมาะแน่ ดังนั้นควรเลือกใส่กางเกงเอวต่ำที่พอดีตัว ไม่ฟิตจนเกินไป เลือกที่มีกระเป๋าหลังหรือกระเป๋าข้างจะช่วยเสริมให้สะโพกดูหนาขึ้นได้ ส่วนช่วงบ่าที่ดูกว้างให้แก้ไขโดยการสวมเสื้อที่พอดีตัว ไม่ฟิตเกินไป ไม่หลวงรุ่มร่ามเกินไปเป็นพอ



 

 วิธี การทำความสะอาดเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ทุก คน เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายจะสวยงาม น่าสวมใส่ และคงสภาพดีได้ยาวนานถ้าเรารู้จักดูแลรักษาความสะอาดของเสื้อผ้า รู้จักใช้วัสดุเพื่อการซักฟอก ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี รู้จักเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก น้ำยาซักฟอก สารฟอกขาว น้ำยาปรับผ้านุ่ม และความรู้เรื่องการทำความสะอาดเสื้อผ้ายังทำให้เราทราบถึงวิธีการซักผ้าแต่ ละประเภทอีกด้วย เช่น 
     - ผ้าฝ้าย ซักด้วยน้ำหมักชีวภาพ หรือซักด้วยสบู่ธรรมชาติ กับบอแรกซ์และผงฟู ถ้าเป็นผ้าขาว ให้ซักด้วย น้ำด่าง จากขี้เถ้า หรือซักด้วยน้ำร้อน ถ้าเป็นผ้าสี ให้ซักด้วยน้ำอุ่น เพื่อไม่ให้สีซีด และอาจใช้ น้ำส้มสายชู ๑ ช้อนโต๊ะ ต่อ การซักผ้า ๑ ถัง จะช่วยให้ผ้า คงสีสดใส การใช้บอแรกซ์ จะช่วยไม่ให้ผ้าขึ้นราด้วย
     - ผ้าลินิน ถ้าเป็นผ้าบางควรซักด้วยมือ ซักด้วยน้ำหมักชีวภาพ หรือซักด้วยสบู่ธรรมชาติ กับบอแรกซ์ และผงฟู
     - ผ้าไหม ซักผ้าไหมด้วยน้ำเย็นกับสบู่อ่อนๆ ไม่ต้องขยี้ แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ไม่ต้องบิด
     - ผ้าขนสัตว์ ซักด้วยมือด้วยน้ำเย็น หรือน้ำอุ่น กับสบู่อ่อนๆ หรือกับน้ำส้มสายชู ๒-๓ ช้อนโต๊ะด้วยวิธีง่ายๆ และ สารธรรมชาติ ที่มีอยู่ในบ้านเรือนเหล่านี้ ก็สามารถช่วยให้เราซักผ้า ให้สะอาดได้ โดยไม่ต้อง ใช้ผงซักฟอก

(2) คำถามท้ายหน่วยการเรียนรู้หน่วยที่  3  ผ้าและเครื่องแต่งกาย 
1.  ผู้ที่จะแต่งกายได้งามนั้นมีอะไรที่เป็นพื้นฐานของการแต่งกาย  จงอธิบาย
พื้นฐานของการแต่งกาย
- สุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี จำทำให้ผู้ใส่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสโดยธรรมชาติ ดูดีจากภายใน
- การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพของตนเอง
- ความเหมาะสมกับกาลเทศะก็เป้นส่งที่ช่วยส่งเสริมให้เราดูดีขึ้นได้




2.  หลักที่ควรยึดถือในการแต่งกายมีอะไรบ้าง  เขียนมาเป็นข้อ ๆ
 หลักที่ควรยึดถือในการแต่งกาย
1. ควรรู้ว่ารูปร่างลักษณะของเรานั้นมีส่วนดีที่ไหนบ้าง เพื่อจะได้เสริมส่วนดีเหล่านั้นให้เด่นขึ้น
2. ควรรู้ข้อบกพร่องหรือส่วนที่ไม่สมส่วนในรูปทรงของเรา เพื่อที่จะได้แก้ไขโดยกลบหรือพรางส่วนนั้นเสีย
3. ควรรู้ว่าตนเองมีบุคลิกลักษณะแบบไหน เพื่อจะได้แต่งให้เหมาะสม
4. ควรรู้ว่าเสื้อผ้าสีอะไร ใช้อย่างไร จึงจะช่วยเสริมผิวพรรณและรูปร่างของผู้สวมใส่ให้งามขึ้น
5. ควรสวมใส่เสื้อผ้าด้วยความประณีตและกลมกลืนกับตัว
6. ควรพิถีพิถันและประณีตให้มาก
7. ควรรักษา ซ่อมแซมเสื้อผ้าให้ประณีตและสะอาดอยู่เสมอ
8. ควรเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมแก่กาลเทศะ
9. การแต่งกายที่ยึดหลักประหยัด ควรมีเสื้อผ้าน้อยชุด แต่สามารถใช้ได้หลายงาน
10. ควรหัดใช้เครื่องประดับตกแต่งประกอบ
11. ควรหัดนั่ง เดิน ยืน ในท่าที่สำรวม สุภาพเรียบร้อย


3.  เปรียบเทียบศิลปะการแต่งกายที่เหมาะสมของบุคคลต่อไปนี้
•     คนอ้วนและคนผอม
 คนอ้วน คน ที่มีหุ่นอวบอ้วนควรเลือกใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีกรมท่า ฯลฯ หากเสื้อผ้าตัวนั้นมีลายทาง ไม่ควรเลือกเป็นลายทางตามขวางมาใส่ (ลายทางในแนวนอน) เพราะจะเป็นการเน้นความกว้างซึ่งก็คือความอ้วนให้เด่นชัดเข้าไปอีก ควรเลือกลายทางตามยาว (ลายทางในแนวดิ่ง)ซึ่งจะเน้นความยาวของลำตัว ทำให้ดูหุ่นเพรียวขึ้นได้ อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ เสื้อผ้ารัดติ้ว (จะทำให้เนื้อปริ้นออกมามองแล้วคล้ายแหนม) และเสื้อผ้าหลวมโคร่ง (จะทำให้ดูตัวใหญ่เหมือนยักษ์) ดังนั้นควรใส่เสื้อผ้าพอดีตัวเข้ารูปจะดีกว่า

คน อ้วนที่ต้องการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูผอมเพรียวและสูงขึ้นควรเลือกใส่ กางเกงขายาวแบบขาตรง สวมเสื้อคอวี สีของเครื่องแต่งกายทั้งเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ให้เป็นไปในโทนสีเดียวกัน จะช่วยให้หุ่นเพรียวสูงขึ้นไ้ด้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงกางเกงเอวสูง แม้ว่าจะช่วยทำให้ดูช่วงขายาวได้ก็จริง แต่สำหรับคนอ้วนถือเป็นข้อห้าม เพราะจะเป็นการเน้นเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าท้องให้เด่นชัดขึ้น สำหรับปัญหาสะโพกใหญ่ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการสะสมไขมันส่วนเกินเอาไว้ก็มีวิธีแก้ไขโดยเลือกใส่ กางเกงเอวต่ำ (ไม่ควรต่ำเกินไปจนดูโป๊) สีเข้ม ช่วยอำพรางสะโพกได้ แต่มีข้อห้ามอยู่ว่าต้องไม่ฟิตจัดหรือมีกระเป่าใบใหญ่ๆตรงบั้นท้าย เพราะจะเป็นการเน้นสะโพกให้ดูใหญ่ขึ้นไปอีก
คนผอม คนผอมมีหลายแบบ ทั้งผอมเพรียวสมส่วน ผอมเตี้ย ผอมแต่ช่วงตัวยาว ผอมแต่ช่วงตัวสั้น ผอมแบบไร้สะโพก ฯลฯ แต่ละแบบก็เป็นปัญหาในการเลือกเสื้อผ้าไม่ต่างกับคนที่มีหุ่นอวบอ้วนเลย แต่ถ้ารู้จักเทคนิคในการเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับหุ่นของตัวเองดังที่ผู้ เขียนกำลังจะนำเสนอในวันนี้ ก็สามารถแต่งตัวให้ดูดีได้เหมือนกัน

1.คนตัวเตี้ย
กางเกง ที่เหมาะกับคนตัวเตี้ยคือกางเกงเอวสูง ขาตรง จะเป็นขายาวหรือขาสั้นก็ได้ตามใจชอบ (แต่ถ้าเป็นขายาวจะช่วยให้ช่วงขาที่สั้นดูยาวเรียวขึ้นได้มากกว่าขาสั้น) กางเกงเอวสูง ขาตรง จะช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้น เน้นแบบเรียบๆ สีซีด ไม่มีลาย จะดีกว่า

2.คนที่มีช่วงตัวสั้น
คนที่มีชาวงตัวสั้นกว่า ขาจนเห็นได้ชัดเหมาะกับกางเกงเอวต่ำ พอดีตัว ไม่ต่ำหรือฟิตเกินไปจนดูโป๊ ช่วยทำให้ช่วงตัวดูยาวขึ้นได้ ที่สำคัญกางเกงเอวต่ำยังช่วยอำพรางเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย

3.คนที่มีช่วงตัวยาว
คนที่มีช่วงตัวยาวจนเห็นได้ชัด เหมาะกับกางเกงเอวสูง ขาตรง นอกจากจะได้โชว์หุ่นผอมเพรียวแล้ว ยังช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้นได้

4.หุ่นผอมไร้สะโพก
คน ที่ไม่มีสะโพกมักจะดูไหล่กว้าง จัดว่าเป็นหุ่นแบบแอ๊ปเปิ้ล ข้อดีของคนที่มีหุ่นแบบนี้คือจะมีต้นขาที่เรียวเล็กสวยงาม ดังนั้นถ้าสวมกระโปรงสั้น (ไม่ใช่สั้นจุ๊ดจู๋นะ) เหนือเข่าเล็กน้อย แบบจีบรอบตัวคล้ายกระโปรงพลีท จะทำให้ดูมีสะดพกมากขึ้น ถ้าต้องการใส่กางเกง ต้องหลีกเลี่ยงกางเกงเอวต่ำกว่าสะดือ เพราะจะทำให้เห็นได้ชัดว่าไม่มีสะโพก และกางเกงเอวสูงก็ห้ามเพราะถูกออกแบบมาเพื่อเน้นสัดส่วนช่วงขา หากคนไม่มีสะโพกใส่กางเกงเอวสูงก็คงไม่เหมาะแน่ ดังนั้นควรเลือกใส่กางเกงเอวต่ำที่พอดีตัว ไม่ฟิตจนเกินไป เลือกที่มีกระเป๋าหลังหรือกระเป๋าข้างจะช่วยเสริมให้สะโพกดูหนาขึ้นได้ ส่วนช่วงบ่าที่ดูกว้างให้แก้ไขโดยการสวมเสื้อที่พอดีตัว ไม่ฟิตเกินไป ไม่หลวงรุ่มร่ามเกินไปเป็นพอ



•     คนผิวขาวและคนผิวคล้ำ
คนผิวคล้ำ ควร เลือกใส่เสื้อผ้าสีโทนอบอุ่น อย่างเช่น สีน้ำตาลอ่อน เทาอ่อน น้ำเงินอ่อน น้ำตาลทอง อาจจะเพิ่มความโดดเด่นด้วยการหาเสื้อผ้าสีสว่างๆ มาสวมทับหรือตกแต่งเล็กน้อยเพื่อความสวยงามก็ได้ แต่ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่มีสีเข้มไปเลย อย่าง สีดำ สีน้ำตาลเข้ม เพราะสีแบบนั้นจะยิ่งทำให้ดูคล้ำหนักกว่าเดิม และสีสว่างๆ อย่าง สีขาว สีชมพู สีฟ้า ก็ไม่ควรหามาใส่ เพราะจะยิ่งทำให้ดูเหมือนเสื้อลอยได้ ดูแย่ลงไปอีก
คนผิวขาว
ผิวขาวอมเหลืองคน ที่มีผิวขาวมากนั้นถือว่าค่อนข้างโชคดีเหมือนคนผิวอมชมพู เพราะสามารถเลือกโทนสีไหนๆ มาส่วมใส่ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีเขียว สีฟ้า สีชมพู เป็นต้น ฉะนั้น อย่าแปลกใจถ้าจะมีใครแอบชำเลืองคุณด้วยความอิจฉา “ผิวพรรณที่ต่างกันจะให้สวมเสื้อผ่าสีเดียวกันแล้วดูสวยงามเหมือนกัน คงเป็นไปไม่ได้ ควรเลือกสีสันเสื้อผ้าให้เหมาะกับสีผิวจะดีกว่า”
ผิวขาวซีดสี ผิวที่ขาวจนเกินไปจนแลดูเหมือนสุขภาพไม่แข็งแรงนัก ควรเลือกสีที่มีโทนค่อนข้างเข็ม หรือหม่นสักเล็กน้อยเพื่อขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้นเล็กน้อย เช่น สีแดงเข้ม สีเหลืองอมน้ำตาล สีน้ำตาลไหม้ หรือสีเขียวเข้ม เป็นต้น
ผิวสองสี หรือผิวสีน้ำผึ้ง
คน ผิวสีนี้ค่อนข้างดูเซ็กซี่มีเสน่ห์อยู่ในตัว การเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสมจึงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีสีค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่างๆ ที่ดูไม่ร้อนแรงหรือเย็นตาจนเกินไป เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมฟ้า สีชมพูอมส้ม สีเลือดนก สีชมพูหม่น เป็นต้น



•     คนรูปร่างเล็กและคนรูปร่างใหญ่
สาวรูปร่างเล็ก
 ใส่รองเท้าส้นสูงแต่พอดี แน่ นอนล่ะ นั่นผู้ช่วยสำคัญเลย คุณอาจอยากเพิ่มความสูงทางลัด แต่ให้จำไว้ว่าควรเลือกรองเท้าที่สูงแค่พอประมาณจะดีกว่า รองเท้าที่ส้นสูงเกินไป อาจทำให้สาวร่างเล็กดูเหมือนยืนอยู่บนไม้ต่อขาได้

อวดช่วงขา รีบคว้ากระโปรงสั้นกับกางเกงผ้าโปร่งบางมาใส่ กระโปรงยาวกับผ้าหนา ๆ อาจทำให้คุณดูตัวเล็กลงไปอีก และยังบดบังรูปร่างเล็ก ๆ ของคุณด้วย

แอ็กเซสซอรี่ เครื่องประดับชิ้นโตๆ ทั้งหลายจะทำให้ดู “เยอะ” เกินไปหน่อยสำหรับสาวไซส์เล็กอย่างคุณ

เพิ่มวอลุ่ม เลือกเสื้อผ้ามีดีเทล หรือเล่นเลเยอร์ที่จะทำให้คุณดูมีเนื้อหนังยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลีตหรือผ้าพองๆ ที่ช่วงไหล่ หรือสะโพกเพื่อเพิ่มความสมส่วน

สาวรูปร่างใหญ่
ถ้าคุณเป็นคนที่มีรูปร่างบริเวณช่วงลำตัว ใหญ่ และไม่ค่อยมีส่วนโค้งเว้ามากนัก แนะนำให้เลือกใส่ชุดแฟชั่นหรือเสื้อผ้าคนอ้วนแบบที่มีท่อนบนพอดีกับลำตัวแต่ ให้เลือกท่อนล่างที่บานออก และควรเลือกความยาวประมาณเข่า หรือเหนือเข่าเล็กน้อยจึงจะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด เพราะทำให้ดูขายาว และการที่ใส่ท่อนบนพอดีตัว และท่อนล่างบานออกนั้นจะช่วยให้ดูมีเชฟที่ไม่ตรงทื่อจนเกินไป และที่สำคัญไม่ว่าจะเสื้อผ้าคนอ้วนหรือเดรสคนอ้วนที่เลือกใส่ควรเป็นคอกว้าง เช่นคอวี หรือ คอปาด เพื่อเน้นให้ดูช่วงคอยาวระหงด้วย
สาวอวบที่มีรูปร่างช่วงเอวหนา อาจเท่ากันกับหน้าอก หรือใหญ่กว่าหน้าอก แฟชั่นที่เลือกใส่อาจเน้นช่วงเอวให้เห็นส่วนโค้งเว้าซักหน่อย เช่นเสื้อที่มีการผูกช่วงเอว หรือเดรสที่มีสายคาดโบหรือเข็มขัดคนอ้วนช่วงเอว เพื่อช่วงในการแบ่งช่วงตัวให้ดูมีส่วนคอดเว้า หรือหากมีเสื้อผ้าคนอ้วนแบบที่เป็นตัวปล่อย ๆ อยู่ละก็ลองหาเข็มขัดเส้นเล็กๆ มาคาดเพื่อช่วงเน้นช่วงเอว
หลีกเลี่ยงชุดเข้ารูปอย่างเด็ดขาด เพราะจำให้รูปร่างแลดูใหญ่หนาช่วงบน และช่วงล่างลีบเล็กไม่สมส่วนได้ ควรเลือกใส่เสื้อผ้าคนอ้วนสไตล์คอวี หรือเสื้อรัดแขนเอวสูงซึ่งจะทำให้เบนจุดสนใจจากหน้าอกได้
  

4.  บรรยายรูปร่างลักษณะของนักเรียน  และอธิบายว่าถ้าจะใช้ผ้าเป็นริ้วเป็นลาย  จะใช้ริ้วลายแบบไหน
รูปร่างสมส่วน ไม่อ้วนไม่ผอม สูงปานกลาง ผิวคล้ำ ควรใส่เสื้อผ้าที่มีลายแนวตั้งหรือลายที่รก และควรใช้สีโทนอบอุ่นหรือสีโทนสว่างๆ


5.  เครื่องเกาะเกี่ยวที่ใช้ในการตัดเย็บมีอะไรบ้าง  เสื้อผ้าที่นักเรียนใส่ส่วนใหญ่ต้องซ่อมแซมอะไรบ้าง
กระดุม (Button) : กระดุมเป็นเครื่องเกาะเกี่ยวชนิดหนึ่ง ซึ่งทำมาจากวัสดุหลากหลายชนิด นอกจากประโยชน์ การใช้สอยโดยตรง คือใช้เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวแล้ว ยังใช้ประโยชน์ในด้านความสวยงามอีกด้วย เช่น ใช้ตกแต่งเสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องประกอบการแต่งกาย แล้วยังสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อการใช้งานต่าง ๆ ได้อีกมากมาย
ซิป (Zipper) : เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวที่สำคัญชนิดหนึ่ง ในการที่จะนำมาต่อผ้าหรือวัสดุ 2 ชิ้น ให้ติดกัน เช่น เสื้อ กระโปรง กางเกง ฯลฯ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นส่วนตกแต่งในเสื้อผ้าได้ นักออกแบบที่มีความคิดสร้างสรรค์ ได้นำเอาส่วนต่าง ๆ ของซิปมาประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับ และเครื่องใช้ของสตรีที่สวย
          

ส่วนใหญ่ที่ต้องซ่อมแซม คือ ชายกระโปรงหลุด กระดุมหลุด ยางยืดหมดสภาพ ตะเข็บกระโปรงนักเรียน


6.  อธิบายการติดกระดุมและติดตะขอมาให้เข้าใจ
การติดกระดุม ในที่นี้จะกล่าวถึงวิธีติดกระดุม 2 ชนิดคือ
กระดุมมีก้านคือ กระดุมที่มีส่วนยื่นออกมาจากใต้เม็ดกระดุม เพื่อใช้เย็บติดกับเสื้อผ้า การติดกระดุมชนิดนี้ จะไม่มีเส้นด้ายเย็บปรากฏบนเม็ดกระดุม วิธีติดกระดุมมีก้านนิยมใช้เศษผ้ารองใต้ผ้า ให้ตรงตำแหน่ง ก้านต้องทำเครื่องหมาย ดึงด้ายเย็บจนตึง เพราะจะทำให้เสื้อย่น มีขั้นตอนการติดดังนี้
          1.วางกระดุมลงบนผ้าในตำแหน่งที่จะติดกระดุม สอดเข็มหมุดที่ห่วงก้านกระดุมเพื่อยึดไว้ชั่วคราว
          2. แทงเข็มขึ้นด้านบนสอดเข้าไปในห่วงกระดุม แทงเข็มลงให้ทะลุผ้าด้านล่าง ดึงด้ายให้ตึง เอาเข็มหมุดออก
          3.ทำแบบข้อ 2 ซ้ำประมาณ 3 – 4 ครั้ง พันก้านกระดุมด้วยด้าย 3 รอบ แทงเข็มลงใต้ชิ้นผ้าผูกปมให้แน่น ตัดด้ายออก

กระดุมไม่มีก้าน คือ กระดุมที่มีรู 2 รู หรือ 4 รู ปรากฏให้เห็นบนเม็ดกระดุม การเย็บกระดุมชนิดนี้ จะมองเห็นเส้นด้ายที่เย็บ วิธีการเย็บกระดุมไม่มีก้านถ้าเป็นกระดุม 2 รู ให้ขมวดปลายหนึ่งของด้ายเย็บให้เป็นปม ทำเช่นเดียวกับเย็บกระดุม 2 รู หรืออาจแทงเข็ม ให้เส้นด้ายด้านบนทแยงไขว้กันก็ได้ มีขั้นตอนการทำดังนี้
          1.กาเครื่องหมายตรงตำแหน่งที่ต้องการจะติดกระดุม
          2.ใช้ด้าย 2 ทบ ร้อยเข็ม เพื่อให้กระดุมแน่นหนาไม่หลุดลุ่ยง่าย ขมวดปลายด้ายทำปม ใช้เข็มแทงขึ้น ตรงบริเวณที่ทำเครื่องหมายไว้ถึงด้ายให้แน่น
          3.วางกระดุมลงตรงกลางแล้วสอดเข็มลอดรูกระดุม รั้งด้ายให้ตึง แทงขึ้นลงตามรูกระดุม กลับไป กลับมาหลายครั้งจนกระดุมแน่น
          4.สอดด้ายใต้กระดุมซ่อนปมอีกครั้งแล้วตัดด้ายออก

กระดุมแป๊บ ทำ ด้วยโลหะผสม มีลักษณะต่างไปจากกระดุมธรรมดา คือประกอบด้วยฝาบน ซึ่งมีปุ่มนูนตรงกลาง และตัวรับซึ่งตรงกลางเป็นแอ่ง ต้องใช้คู่กันเสมอทำให้ประกบกันสนิท การติดกระดุมแป๊บ ถ้าเป็นผ้าบางควรจะมีผ้าชิ้นเล็ก ๆ รองข้างในตรงตำแหน่งที่เย็บกระดุมเพื่อความคงทน ส่วนใหญ่ใช้กับ เสื้อสตรีสำหรับยึดสาบเสื้อ หรือขอบแขนให้ติดกัน มีขั้นตอนการติดดังนี้
          1.วางกระดุมลงในตำแหน่งที่ต้องการ แป๊บตัวผู้วางบนสาบเสื้อชิ้นบน แป๊บตัวเมียวางบนสาบเสื้อชิ้นล่าง สนด้ายใส่เข็มขมวดปลายด้ายให้เป็นสองทบ
          2.แทงเข็มสอดขึ้นลงในรูกระดุมทีละรู รูละ 3 ครั้ง เมื่อจะเย็บรูต่อไปให้แทงเข็ม โดยซ่อนด้ายไว้ใต้ผ้า แล้วดึงเข็มขึ้น เมื่อเย็บครบ 4 รู้จึงผูกปมด้าย ทั้งแป๊บตัวผู้และตัวเมียมีวิธีการเย็บเหมือนกัน

การติดตะขอ      1. กำหนดตำแหน่งที่จะติดตะขอ
      2. ติดตะขอเกี่ยวหรือตะขอสับบนเส้นกลางขอตะเข็บข้างตัวหรือกลางตัว
      3. ติดตะขอรับบนเส้นกลางตะเข็บทางด้านซ้ายมือ
      4. ติดตะขอรับให้หัวตะขออยู่บนกลางตะเข็บทางด้านขวามือ
      5. สอยพันหรือเย็บแบบรังกระดุม สอยเรียงเส้นด้ายลงในช่องตะขอที่กำหนด
      6. เย็บติดตะขอเกี่ยวและขอรับ ที่ขอบเอวเหนือซิป

 


7.  อธิบายการปะเพื่อการตกแต่ง
การปะเพื่อ การตกแต่ง เป็นการนำผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ที่เป็นลวดลายหรอต้องการให้เกิดลวดลายมาวางทับบนเสื้อผ้าและปักริมโดยวิธีใด วิธีหนึ่ง การปะอาจใช้ด้ายสีหรือกระดุมเพื่อตกแต่งก็ได้ในการตกแต่ง เราควรเลือกสีของชิ้นส่วนก่อนจากนั้นนํามาปักเข้ากับเนื้อผ้าที่เราต้องการ ให้ได้ตามลายที่เราวางเอาไว้


8.  ถ้ากางเกงที่ใส่ขาดที่หัวเข่าจะแก้ไขดัดแปลงอย่างไรให้ใช้งานได้
ในกรณีที่ทำการซ่อมแซม
1. หาเศษผ้าที่มีสีและขนาดใกล้เคียงกับรอยขาดมากที่สุดมา
2. ใช้เข็มหมุดกลัดผ้าชิ้นนั้นเอาไว้
3. ใช้เข็มเย็บผ้าเย็บตามรอยที่ขาดโดยเลือกสีด้ายจตามสีกางเกง
ในกรณีที่ทำการดัดแปลง
1. หาเศษผ้าที่มีสีสันเข้ากับกางเกงได้ และลูกปัด เศษผ้าลายสวยงามมา
2. ออกแบบกางเกงตามต้องการ
3. ลงมือเย็บตามที่ออกแบบไว้



9.  ถ้านักเรียนดัดแปลงเสื้อผ้าที่ไม่ใช้เป็นผ้ากันเปื้อน  นักเรียนจะใช้ลวดลายและตะเข็บอะไรตกแต่งและมีวิธีทำอย่างไร
ลวดลายที่ใช้อาจเอาเศษผ้า้ที่มีสีเข้มเนื่องจากจะได้ไม่เลอะเทอะเวลาที่ใช้งาน
การเย็บด้วยมือ
     ตะเข็บเย็บมือเป็นตะเข็บที่ทำได้ง่ายที่สุด  ควรฝึกเย็บให้มีทักษะในการเย็บผ้าในลักษณะต่างๆ จนเกิดความชำนาญพร้อมๆ ไปกับการฝึกหัดใช้เครื่องมือเครื่องใช้ในการเย็บได้อย่างถูกต้อง
     การเย็บตะเข็บต่างๆด้วยมือ ต้องเลือกเส้นด้ายแบบเส้นด้ายเดี่ยวเข้าเกลียวหรือเส้นด้ายเข้าเกลียวชนิด ต่างๆ เส้นด้ายไม่เข้าเกลียวใช้ไม่ได้ เลือกใช้เข็มให้สัมพันธ์กับเส้นด้ายด้วย
การเย็บทั่วๆไป  เมื่อร้อยด้ายกับเข็มแล้ว ต้องทบปลายด้ายเข้าด้วยกัน ให้ปลายทางด้านสั้นทบยาวประมาณ 2/3 ของปลายทางด้านยาว ปลายทางด้านยาวตัดด้ายให้ยาวประมาณ30 – 40 เซนติเมตร  ถ้าตัดด้ายยาวเกินไปเส้นด้ายจะพันกันไม่สะดวกในการเย็บ นอกจากจะใช้เนาจึงตัดด้ายยาวกว่านี้ได้
     ก่อนเย็บ  ให้จับปลายด้ายด้านยาวทำปมเสียก่อน  โดยจับปลายเส้นด้ายผูกเป็นปมดังนี้
         1. จับปลายด้ายด้านยาว
         2. พันปลายนิ้วชี้  1  รอบ
         3. ม้วนให้ปลายเส้นด้ายสอดเข้า  ให้รอบห่วงที่นิ้ว  แล้วปลดออก
         4. รูดให้เป็นปมห่วงจากปลายเส้นด้าย



10.  อธิบายขั้นตอนการซักรีดเสื้อผ้า
1.นำสิ่งของออกจากกระเป๋าให้หมด
2.ถ้าพบว่าเสื้อผ้าชำรุด  ควรซ่อมให้เรียบร้อยก่อนซัก
3.แยกผ้าสีและผ้าขาวออกเป็นพวกๆ
4.ซักด้วยน้ำเปล่าก่อน 1 ครั้ง
5.ใส่ ผงซักฟอกลงในอ่างหรือกะละมังประมาณ  1  ช้อนโต๊ะ  แล้วจึงใส่น้ำประมาณ  1 ขันใหญ่ต่อเสื้อ 1 ตัว  คนให้ผงซักฟอกละลายและกระจายไปทั่ว  แล้วนำเสื้อลงแช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที  ขณะเดียวกัน  ควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับตากผ้าไว้ให้เรียบร้อยจะทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น
6.ขยี้หรือใช้แปรงๆที่คอเสื้อ  แขนเสื้อ  กระเป๋าและซักทั้งตัวให้สะอาด  บีบน้ำออก  แต่ไม่ควรบิดเพราะจะทำให้ผ้าขาดเร็วขึ้น
7.ซักในน้ำสะอาด 2-3  ครั้ง  ให้หมดคราบผงซักฟอก
8.นำขึ้นตากโดยกลับตะเข็บเสียก่อน  แล้วใส่ไม้แขวนเสื้อ  ถ้าเป็นเสื้อสี  ให้แขวนไว้ในที่ร่มและลมพัดผ่านได้ดี
9. ถ้าซักด้วยเครื่องครั้งหนึ่ง จะใช้น้ำประมาณ 150-250 ลิตร
10.น้ำสุดท้ายของการซักสามารถนำไปเช็ดถูบ้าน หรือรดน้ำต้นไม้ใหญ่ได้



คำสำคัญ (keywords): เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

2 comments:

Unknown said...

รบกวนฝากประกาศหน่อยค่ะ
+++++++
โปรโมชั่น สกรีนเสื้อด่วน สกรีนเสื้อถูก
ราคาเพียง 199 บ. เท่านั้น
ออกแบบสกรีนเอง ตัวเดัยวในโลก ไม่เหมือนใคร
รับสกรีนเสื้อด่วน | สกรีนเสื้อ 1 ตัว
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.1teeshirt.com

Unknown said...

รบกวนฝากหน่อยน่ะค่ะ
โปรโมชั่น สกรีนเสื้อคู่รัก เพียง 199 บ.
ออกแบบสกรีนเสื้อคู่รัก ทำเสื้อคู่รัก
สามารถออกแบบลายสกรีนเสื้อคู่รักเอง ไม่มีขั้นต่ำสำหรับเสื้อคู่รัก
1TeeShirt รับทำเสื้อคู่รัก ราคาถูก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http:www.1Teeshirt.com น่ะ

Post a Comment

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by I Love Fat